วันศุกร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

10 วิธีเตรียมสวนและสนามหญ้ารับมือหน้าหนาว

http://www.tomcorsonknowles.com/blog/wp-content/uploads/2012/07/Eco-friendly-garden.jpg

    ในช่วงฤดูหนาว อากาศเย็น ๆ บวกกับความแห้งในอากาศ ทำให้หลายคนได้เห็นความเปลี่ยนแปลงที่เริ่มเกิดขึ้นกับสนามหญ้า และต้นไม้ในสวนของตัวเองบ้าง ซึ่งต้องบอกเลยว่ามีทั้งการเปลี่ยนแปลงในด้านดี สำหรับต้นไม้ที่ไม่มีปัญหากับความเย็นและอากาศแห้ง ๆ กับการเปลี่ยนแปลงในทางลบ ที่เกิดขึ้นกับต้นไม้และหญ้าบางชนิด แต่ก่อนจะเกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมา จนสนามหญ้าและสวนของเราหมดสวย ลองมาดูวิธีเตรียมรับมือกับสภาพอากาศเย็น ๆ ให้สนามหญ้าและสวนกันไว้ก่อนดีกว่านะคะ

 1. เปิดทางความชื้นและแสงแดดด้วยคราด

           ช่วงหน้าหนาวน้ำค้างจะค่อนข้างแรงก็จริง แต่อากาศกลับแห้งกว่าฤดูอื่น ๆ  ทำให้ดินมีโอกาสแห้งแล้งได้ ดังนั้นเราควรเปิดทางให้ความชื้น และแสงแดด ซึ่งเป็นอาหารสำคัญของพืช ผ่านเข้ามาบำรุงถึงรากต้นไม้ได้อย่างสะดวก โดยคุณควรใช้คราดกำจัดใบไม้ รวมทั้งสิ่งกีดขวางอื่น ๆ ที่ปกคลุมหน้าดินอยู่ให้โล่งที่สุด ป้องกันปัญหารากตาย และใบเป็นจุดสีน้ำตาล

 2. อย่ารีบร้อนตัดแต่งกิ่งไม้

           เหตุผลอันดับแรกของการตัดแต่งกิ่งต้นไม้ ก็เพื่อเร่งให้ต้นไม้ผลัดใบ และเจริญเติบโตได้รวดเร็วขึ้น แต่ในฤดูหนาวที่ไม่ค่อยเอื้ออำนวยให้ปลูกต้นไม้อย่างนี้ เราก็ควรเลี่ยงการตัดแต่งกิ่งไม้ไว้ก่อน หรือหากคุณจำเป็นจะต้องตัดเล็มกิ่งไม้จริง ๆ น่าจะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเรื่องต้นไม้และสวนสักนิดก่อนค่ะ

 3. รักษาความชื้นให้ต้นไม้ที่ปลูกมานาน

           ต้นไม้ใหญ่ และต้นไม้ที่ปลูกไว้นานแล้ว มักจะมีส่วนที่ตายและห่อเหี่ยวไปเอง ซึ่งส่วนเหล่านี้ของต้นไม้ เป็นคล้าย ๆ ไส้ติ่งของมนุษย์อย่างเรา ๆ ที่ไม่มีความสำคัญ แถมยังเป็นส่วนที่เกะกะอีกต่างหาก ฉะนั้นในฤดูหนาวที่ต้องการรักษาความชื้นให้ต้นไม้มากที่สุด ก็ควรจัดการกับไส้ติ่งเหล่านี้ให้สิ้นซาก อ้อ ! ในกรณีแบบนี้คุณสามารถตัดเล็มกิ่งไม้ได้ตามสบายเลยค่ะ

 4. จับไม้ล้มลุกมาทำปุ๋ย
          
           อาจจะดูเหมือนใจร้าย แต่ถึงแม้เราจะพยายามดูแลบรรดาไม้ล้มลุกอย่างดีแค่ไหน เจ้าพืชอายุไม่ยืนเหล่านี้ก็รอดเงื้อมมือหน้าหนาวลำบากอยู่ดี ดังนั้นคงดีกว่าหากเราจะนำไม้ล้มลุกมาทำเป็นปุ๋ยหมักซะเลย ก่อนจะต้องปวดใจกับสภาพเหี่ยวเฉาของเขาให้รำคาญตา
 5. พืชปกคลุมช่วยได้

          ถ้าอยากรักษาความชื้นให้ดินได้มาก ๆ แนะนำให้ปกคลุมดินเอาไว้เลย เลือกใช้พืชคลุมดินที่มีขายตามร้านต้นไม้ หรือจะนำซากพืชและปุ๋ยมาผสมกันแล้วปกคลุมดินก็ได้หมด แต่เคล็ดลับอยู่ที่คุณต้องเกลี่ยพืชคลุมดินให้รอบต้นไม้ในลักษณะรูปวงกลมโด นัท อย่าโรยพืชคลุมดินเป็นเนินเหมือนภูเขาไฟ เพราะส่วนลำต้นเราไม่ต้องปกคลุมเขาให้เปลืองพืชคลุมดินก็ได้

 6. อนุบาลต้นไม้เล็กด้วยกระสอบ

           นอกจากต้องคลุมหน้าดินรักษาความชื้นให้ดินแล้ว เหล่าต้นไม้เด็ก ที่เพิ่งปลูกเมื่อไม่นานมานี้ ก็ควรดูแลเขาให้ดีด้วย อย่างแรกให้หากระสอบ หรือพลาสติกเจาะรูมาคลุมต้นไม้เบบี๋ไว้ก่อน รอจนเขาเติบโตพอจะต่อสู้สภาพอากาศแห้งชื้นด้านนอกได้ค่อยปล่อยเป็นอิสระ

 7. ได้เวลาปลูกพืชชนิดหัว

           ไม้หัวหลายชนิดชื่นชอบอากาศเย็น ๆ และสามารถทนกับความแห้งแล้งในอากาศได้เป็นอย่างดี อย่างเช่น ว่านสี่ทิศ บัวดิน ฯลฯ ซึ่งหากอยากปลูกต้นไม้เพิ่มความสวยงามให้สวน ก็สามารถเลือกปลูกพันธุ์ไม้เหล่านี้ได้เลยค่ะ

 8. พลิกหน้าดินเติมธาตุอาหาร

           สำหรับสนามหญ้า คุณอาจจะลองพลิกหน้าดิน เพื่อเปิดโอกาสให้ความชื้นและแสงแดดส่องเข้าไปบำรุงรากต้นไม้โดยตรงบ้างก็ ได้ นอกจากนี้หากลงทุนพลิกหน้าดินแล้ว ก็ควรถือโอกาสใส่ปุ๋ยและธาตุอาหารที่จำเป็นกับต้นหญ้าไปด้วยเลยยิ่งดีจ้า

 9. ใส่ปุ๋ยคอกบำรุงต้นไม้อย่างถูกสูตร

           ปุ๋ยคอกเป็นปุ๋ยที่น่าจะปลอดภัยกับพืชและสิ่งแวดล้อมมากที่สุด เนื่องจากมีส่วนผสมจากธรรมชาติด้วยกัน แต่ก่อนจะใส่ปุ๋ยคอกให้พืช คุณก็ควรตรวจสอบก่อนว่าพืชแต่ละชนิดต้องการปุ๋ยคอกในอัตราเท่าไร และปุ๋ยคอกสูตรไหนจะเหมาะกับดินของคุณ เพื่อให้ดินและต้นไม้เติบโตได้อย่างสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์เต็ม

 10. ใส่ใจต้นไม้ทุกต้นอย่างดีที่สุด

           เตรียมพร้อมต้นไม้กันไปแล้ว ต่อไปนี้ก็ต้องใส่ใจดูแลต้นไม้ใบหญ้าทุกต้นอย่างเต็มที่ด้วย หมั่นรดน้ำอย่างถูกวิธี กำจัดวัชพืช บำรุงดินและพืชด้วยปุ๋ย และพยายามเล็มกิ่งไม้ ใบไม้ที่แห้งตายแล้วออกไป เพื่อลดการคายน้ำของพืช และเพื่อรักษาความชื้นไว้ใช้ในส่วนจำเป็นให้ได้มากที่สุด


           ใครที่อยากดูแลสนามหญ้าและสวนให้สวยในหน้าหนาวนี้ ก็อย่าลืมนำวิธีดูแลต้นไม้เพื่อรับมือหน้าหนาวเหล่านี้ไปใช้ตามที่เราแนะนำ กันด้วยนะคะ จะได้มีสวนสวย ๆ ไม่หวั่นในทุกสภาพอากาศ

บทความอื่นๆน่าสนใจ

วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

15 วิธีคลายร้อนให้บ้าน

http://ajdweb.com/wp-content/uploads/2014/06/home-garden-design-software-free.jpg

วิธีคลายร้อน

      ช่วงนี้อากาศร้อนขึ้นเรื่อยๆ จนแทบจะทำให้หลายๆ คนเลือกที่จะอยู่แต่ในบ้าน เพื่อให้ไม่ต้องไปเจอกับแดดร้อนๆ ที่เผาจนผิวแทบไหม้ในตอนกลางวัน แต่อย่างไรก็ตาม การทำเช่นนั้นก็อาจทำให้เราต้องช็อกกับบิลค่าไฟที่พุ่งสูงขึ้นจนน่าตกใจจาก การเปิดแอร์ทั้งวันได้เช่นกัน ดังนั้น จึงขออาสานำเคล็ดลับดีๆ วิธีคลายร้อนให้กับบ้านของคุณโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมาฝาก  
  1. เปลี่ยนผ้าม่านของคุณเป็นม่านแบบโซล่า ซันสกรีน ชั่วคราว เพื่อจะได้ช่วยกันแสงแดดได้ดีขึ้น ในขณะที่สามารถถ่ายเทอากาศได้ดีเหมือนเดิม
  2. ใช้ฟิล์มกรองแสงเคลือบหน้าต่างห้องที่อยู่ทางทิศตะวันตก และตะวันออก เพื่อกันแสดงแดดแรงๆ ที่จะส่องเข้ามาในบ้าน
  3. ติดกันสาดเฉียงประมาณ 45 องศาบริเวณหน้าต่าง เพื่อลดแสงแดดที่เข้ามาในห้องได้ถึง 65 - 77 %
  4. เลือกใช้หลังคาสีอ่อนและพ่นฉนวนกันความร้อนอีกชั้น จะช่วยกันความร้อนที่แผดเผาเข้ามาผ่านหลังคาได้ดีขึ้น
  5. ใช้สีสว่าง เช่น สีขาวแต่งห้อง จะได้ไม่ดูดความร้อนเหมือนสีเข้มๆ เช่น สีดำ
  6. ปลูกต้นไม้บริเวณหน้าบ้าน และหาไม้ประดับเล็กๆ มาไว้ในบ้าน โดยเฉพาะในห้องที่อยู่ทิศตะวันออก และทิศตะวันตก เพื่อให้อากาถ่ายเทได้มากขึ้น
  7. เปลี่ยนฟิลเตอร์แอร์เป็นประจำ อย่างน้อยเดือนละครั้ง เพื่อให้แอร์ของคุณทำงานได้ดี โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศร้อนเป็นพิเศษ
  8. เลือกซื้อพัดลมแบบติดเพดาน อากาศในห้องจะได้ถ่ายเททั่วถึงมากขึ้น โดยไม่ทำให้ค่าไฟพุ่งสูงมากนัก
  9. ใช้หลอดไฟแบบตะเกียบ เพื่อเป็นการประหยัดพลังงาน ซึ่งจะช่วยให้ความร้อนในห้องลดลงด้วย
  10. พยายามอย่าเปิดหน้าต่างในช่วงกลางวัน ลมร้อนจากข้างนอกจะได้ไม่เข้ามาสะสมภายในบ้าน
  11. หากคุณไม่คิดจะเปิดแอร์ตอนกลางคืน ก็ควรเปิดหน้าต่างไว้ เพื่อให้ลมเย็นในช่วงกลางคืนเข้ามาในบ้าน
  12. อย่านำเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ เช่น โทรทัศน์ไปไว้ใกล้ๆ เครื่องปรับอากาศ เพราะจะทำให้เครื่องปรับอากาศต้องทำงานหนักขึ้น จนประสิทธิภาพลดลง
  13. พยายามใช้ไมโครเวฟ หรือเครื่องปิ้งขนมปัง แทนเตาแก๊ส ที่จะทำให้ไอร้อนอบอวลอยู่ในบ้าน
  14. เปิดประตูห้องน้ำ และห้องนอน ไว้เสมอ จะช่วยให้อากาศในบ้านถ่ายเทมากขึ้น
  15. ใช้กระเบื้อง หรือหินอ่อนปูชั้นล่าง เพราะกักเก็บความเย็นจากพื้นดินได้เป็นอย่างดี
     เพียงแค่ทำตาม 15 วิธีคลายร้อน ก็จะช่วยให้บ้านของคุณคลายร้อนลงได้มาก ลองเลือกดูข้อที่เหมาะสมกับบ้านของคุณ แล้วนำไปลดความร้อนให้บ้านกัน

 
บทความอื่นๆน่าสนใจ

วันพุธที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ดูฮวงจุ้ย ก่อนตัดสินใจซื้อคอนโด


https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgoe6lZgHaYZxygJfdMJ1ePVpf0PHYbTk_mArzuvysqX5-81pnK5_oPIjA2rToRE4bMK4SJsREZzxYkeyZCjuowHVEsVXD0DeVBnwdDDBupGHHesXr6Sy81-j4xnPJLFMWLXF3_-5_TXm8/s1600/Screen-Shot-2555-07-09-at-3.34.00-PM-540x334.png

ก่อนการตัดสินใจเลือกซื้อคอนโด เราควรพิจารณาสิ่งประกอบหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นทำเลคอนโด ขนาดของห้องพัก สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ สิ่งที่ควรคำนึงไม่แพ้กันคือ ฮวงจุ้ยของคอนโด เพราะฮวงจุ้ยจะดีหรือไม่ดี สิ่งเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อผู้อยู่อาศัย งั้นเรามาดูข้อควรพิจารณาเบื้องต้นก่อนซื้อคอนโดกันเลยดีกว่า
1. พิจารณาที่ตัวคอนโด ว่าอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีหรือไม่ เพราะถ้าคอนโดทั้งหลังมีฮวงจุ้ยที่ดีแล้ว ห้องที่อยู่ภายในทั้งหมดก็จะได้รับผลดีไปด้วยคอนโด ที่ได้ชื่อว่าฮวงจุ้ยดี คือ อยู่ใกล้แหล่งชุมชน ไม่อยู่โดดเดี่ยวหลังเดียว เส้นทางเข้าต้องไม่อยู่ห่างจากถนนใหญ่มากเกินไป

สิ่ง ปลูกสร้างรอบ ๆ ต้องไม่มีลักษณะร้าย เช่น สะพานลอยทางด่วน ทางรถไฟ ทางยกระดับพาดผ่าน หรือมีเสาไฟฟ้าแรงสูง เสาอากาศวิทยุหรือโทรทัศน์ขนาดใหญ่อยู่ใกล้,ต้องไม่มีเหลี่ยมมุมของอาคาร ข้างเคียงพุ่งเข้าสู่อาคาร หรืออยู่ระหว่างซอกตึกของอาคารตรงข้าม, ต้องไม่แวดล้อมด้วยอาคารที่สูงกว่า และไม่อยู่ติดวัด ศาลเจ้า สุสาน ป่าช้า

2. การหาตำแหน่งห้องที่ดี จะต้องพิจารณาด้านทั้งสี่ของอาคารเป็นหลัก คำถามที่ผมมักจะเจออยู่บ่อย ๆ ก็เห็นจะเป็น "จะเลือกห้องไหนถึงจะดี" หลักในการเลือกจะต้องดูด้านทั้ง 4 ของคอนโดฯ ดูว่าด้านไหนดีที่สุดก็เลือกด้านนั้น ด้านที่ดีส่วนใหญ่จะเป็นที่โล่ง ไม่มีอาคารอื่นปิดบังห้องมีสวนสระน้ำ แม่น้ำ ทะเลสาบ หรือทัศนียภาพที่สวยงาม

3. ดูทิศทางเพื่อเลือกตำแหน่งห้อง การดูทิศถือว่าสำคัญมาก การจะเลือกห้องอยู่ทางทิศไหนนั้นมีหลักในการพิจารณาง่าย ๆ ดังนี้

- ด้านเหนือ อับลม
- ด้านใต้ รับลม
- ด้านตะวันออก รับแสงตอนเช้า
- ด้านตะวันตก รับแสงตอนบ่าย

ความ สมดุลในเรื่องของลมและแสงจะไม่สมดุลอยู่แล้ว ถ้าเลือกตำแหน่งห้องที่อับลมอีก ห้องนั้นจะไม่มีการหมุนเวียนของลมเลย ย่อมส่งผลเสียต่อผู้อยู่อาศัยได้ง่าย โดยเฉพาะในเรื่องของสุขภาพ


บทความอื่นๆน่าสนใจ

วันอังคารที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

5 วิธี แต่งคอนโดขนาดเล็กให้ดูกว้าง

https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg-PE8Co13F9uHrP-MYkC-_pHWXIhj1TXNEChsNHmUJDQiiyf37gF5sycMWuvOkoCiti92AzIvfXXPNVYyQkrZBKEHCKANUsGLE8OhFytRLR-uVvoDvy-9CrTFE-t0w0bmCYKG6QZYswF0/s1600/5.png

อยากเปลี่ยนมุมห้องคอนโดใหม่ ห้องที่อยู่เดิมทำไมเล็กจัง วันนี้เรามีวิธกีารแต่งห้องคอนโดขนาดเล็กมาฝากกันค่ะ

1.ใช้ พื้นที่แนวตั้งให้เป็นประโยชน์มากที่สุด ถ้าคอนโดของ เราค่อนข้างแคบ เราสามารถแก้ไขได้โดย ทำตู้ให้สูงเสมอเพดานเข้าไว้ เพราะกรณีนี้ทำให้เราสามารถใช้พื้นที่ของตู้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุดได้ ซึ่งการสั่งทำตู้บิวท์อินสามารถช่วยได้
2. กระจกเงาช่วยได้ การติดกระจกเงาที่ผนังบางส่วนของคอนโดช่วยทำให้ห้องกว้างขึ้นและห้ามเด็ดขาด เลย คือการนำกระจกเงามาหันหน้าชนกัน เพราะจะทำให้เกิดภาพซ้อนวุ่นวาย
3. เลือกทาสีคอนโดด้วยโทนสีอ่อน รวมถึงสีสันของเฟอร์นิเจอร์ไม่ควรเข้มเกินไป
4. ไม่ควรติดบัวฝ้าบนเพดาน เพระาห้องที่แคบอยู่แล้ว การแบ่งขอบเขตเขตฝ้าเพดานและผนังยิ่งทำให้ห้องดูแคบมากไปอีก
5. เลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง เช่น โต๊ะทานข้าวที่สามารถพับเก็บได้และสามารถดัดแปลงมาเป็นโต๊ะทำงานได้ ซึ่งจะช่วยประหยัดพื้นที่ได้เยอะเลย


บทความอื่นๆน่าสนใจ
 

วันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

เพิ่มสีสันในคอนโด ด้วยหมอนอิงสีสวย

https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhyZJwSTYAipD26uXQV0WUid31TdJlp2lXRn_TwI9yY49TYAT1AirVl4XFGPkJ_MC-TKMq_JWgkJI0M09ydhLUgqx-w7C7rOSpHxZLbafDeEWGftNldgVv-_rAPDlkwelMc6Mtjbo4p54Q/s1600/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%95%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B8%A2%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%9F%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%AA%E0%B8%94%E0%B9%83%E0%B8%AA.jpg


หลายคนสนุกสนานกับการแต่งคอนโด ที่สามารถใส่จิตนาการและลูกเล่นลงไปได้อย่างมากมาย แต่บางครั้งก็รู้สึกเบื่อกับห้องแบบเดิมๆ ขึ้นมา ครั้นจะเปลี่ยนใหม่ ก็ดูหนักหนาสาหัสเอาการ เรามีวิธีง่ายๆ ที่จะเปลี่ยนให้ห้องแบบเดิมๆ ดูสนุกมากขึ้นด้วยหมอนอิงสุดเก๋

หมอนอิง ต้องคู่กับโซฟา แต่ไม่จำเป็นต้องเข้ากันเสมอไป หมอนอิงเป็นของตกแต่งบ้านและคอนโดที่ ไม่ได้มีแค่ความสวยงาม แต่สามารถใช้งานได้จริง ด้วยรูปทรงและสีสันที่มากมายทำให้มันเป็นได้ทั้งพระเอกของห้อง หรือเป็นเพื่อนพระเอกที่ช่วยผลักให้โซฟาโดดเด่นยิ่งขึ้น ดังนั้นการเลือกหมอนอิงจึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจเพราะจะทำให้ห้องคอนโดดูสดใสมากขึ้น เราจึงขอนำเสนอเทคนิคในการเลือกหมอนอิงเก๋ๆ มาฝากกัน

1. ขนาดและรูปร่าง
สิ่ง แรกที่ต้องดูคือขนาดของโซฟา ควรเลือกหมอนอิงให้มีขนาดไม่เล็กจนเกินไป แต่สามารถเลือกขนาดใหญ่ได้ ส่วนรูปทรงของหมอนอิงมีให้เลือกหลากหลายมากๆ ที่พบเห็นอยู่บ่อยครั้งคือ ทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส แต่สามารถใช้รูปทรงแปลกๆ ได้ทั้งรูปการ์ตูน วงกลม เรียกได้ว่าไม่มีกฏตายตัว อยู่ที่ความชอบและไอเดีย

2. สีสันเข้ากัน
เป็น การเลือกหมอนอิงโดยดูจากสีของคอนโดและเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลัก โดยปกติแล้วเรามักจะเลือกใช้สีหลักของห้อง 3 สี ดังนั้นการเลือกหมอนอิงก็ควรเลือกใน 3 สีนี้ ซึ่งวิธีนี้จะทำให้ห้องดูดี สบายตา และเป็นการลดความเสี่ยงในการตกแต่งที่ไม่เข้ากัน

3. สีสด
เป็น การเลือกหมอนอิงที่มีสีสันแตกต่างจากสีหลักของห้อง วิธีการนี้เป็นการเพิ่มความน่าสนใจและเพิ่มลูกเล่นให้ห้องดูสนุกยิ่งขึ้น เทคนิคนี้ควรใช้สีคู่ตรงข้าม เช่น คอนโดห้องมีสีขาว ควรใช้หมอนอิงสีดำ หรือคอนโดห้องสีอ่อนควรเลือกใช้หมอนอิงสีเจ็บๆ อย่างสีชมพูสด สีเหลือง สีฟ้า เป็นต้น

4. สีสลับ
คือ การเลือกใช้สีหมอนอิงในข้อที่ 2 และ 3 วางสลับกัน เรียกได้ว่าเป็นวิธีการปรองดอง มากันคนละครึ่งทาง เลือกหมอนอิงสีเข้ม หรือสีอ่อน วางสลับกับหมอนอิงสีสด

5. ใช้หมอนอิงกี่ใบดี
หาก เลือก ใช้หมอนอิงที่มีขนาดเล็กควรใช้หมอนอิงหลายใบ วางให้เต็มโซฟาหรืออาจดูล้นๆ มาหน่อย แต่หากชอบความนุ่มนวล สบายตา เลือกหมอนอิงขนาดใหญ่ แต่วางบนโซฟาให้เว้นระยะช่องไฟเล็กน้อย

6. วางตำแหน่งให้เหมาะ
วิธี การวางหมอนอิงทำได้ง่ายๆ โดยใช้หลักความสมดุล วางสองฝั่งให้เท่ากัน เพิ่มลูกเล่นและความน่าสนใจเล็กน้อย โดยการวางหมอนอิงให้ซ้อนทับกันและเอียงเล็กน้อย


เพิ่มสีสันในคอนโด ด้วยหมอนอิงสีสวย


บทความอื่นๆน่าสนใจ
- โฆษณาคอนโด แบบไหนที่ผิดกฎหมาย

วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

เลือกคอนโดชั้นไหน ดีกับผู้อยู่อาศัย

https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjH9cg5V-9jeBzXLUWrTHoulJqeBh5k1Z1fLwoYe_53dIG5ZxoUfgZaZjt9T3GLVZiT78pQIluEc3TNdlbAIkfSRSxqyiVLUCI3xG33TiHry277HNKXma2_Nn9OZxoxByytdwocSsuB7uQ/s1600/892341_178507768967148_2016030887_o.jpg

เรื่องการเลือกชั้นที่ดีนั้นหลักก็คือเอาตัวเลขของชั้นเข้ามาเกี่ยว ข้องถึง ความเป็นมงคลและไม่เป็นมงคลกับการอยู่อาศัย ซึ่งหลักเกณฑ์ในเรื่องนี้มีหลายหลักเกณฑ์มาก หลักของฮวงจุ้ยก็อย่างหนึ่ง หลักของไทยก็อย่างหนึ่งหลักของฝรั่งก็อย่างหนึ่ง สุดแล้วแต่ว่าจะนำหลักไหนมาพิจารณา
        
1.คอนโดชั้น13 - เป็นชั้นที่คนส่วนใหญ่ไม่นิยมเลือกมากที่สุดก็คือชั้น 13 ตัวเลขนี้ไม่ว่าจะนำหลักไหนมาพิจารณาก็ถือว่าไม่ดีทั้งสิ้น โดยเฉพาะหลักของฝรั่ง ซึ่งคนต่างชาติจะกลัวเลขนี้มาก จนหลายๆ คอนโดฯ จะต้องเปลี่ยนชั้น 13 เป็นชั้น 12A แทนเพื่อแก้เคล็ด เลข 13 ของคนไทยก็ไม่ดี เพราะเป็นเลขที่ขัดแย้งกันทางโหราศาสตร์ไทยเลข 1 กับเลข 3 ก็คือคู่ศัตรูกัน ถ้าเป็นศาสตร์ของจีนก็ไม่ดีดีเช่นกัน เพราะ 1+3  = 4 ออกเสียงว่า "ชี้" แปลว่า "ตาย"

2.คอนโดชั้น 7 -  คือชั้นที่คนไม่เลือกรองลงมาจากชั้น 13 เพราะความหมายของเลข 7 ในทางฮวงจุ้ยคืออุปสรรค โทษภัย ส่วนหลักโหราศาสตร์ไทย 7 คือโทษทุกข์ ไม่ว่าจะไปอิงกับเลขใดก็จะเสียทั้งหมด 17 ร้อนใจ 27 ชู้สาว 37 แตกหัก เพราะฉะนั้นชั้นคอนโด ที่ลงท้ายด้วยเลข 7 มักไม่เป็นที่นิยมเท่าไหร่

3.คอน โดชั้น 3 - ก็เป็นอีกหนึ่งชั้นที่ให้ความหมายที่ไม่ดี ในทางฮวงจุ้ยหมายถึงแย่งชิง ต่อสู้ ขัดแย้ง ทางโหราศาสตร์ไทย 3 คือความเหน็ดเหนื่อย วู่วาม

4.คอนโดชั้น 22 - ดูจะเป็นชั้นที่หลายคนคาดไม่ถึงว่าจะไม่ดี แต่ในทางฮวงจุ้ยบอกว่าเลข 22 แทนความหมายของผีสิง ป่วยหนัก โดยเฉพาะคำว่า "ผีสิง" คงทำให้หลายคนกลัวขึ้นมาทันที และคงไม่มีใครกล้าเสี่ยงที่จะเลือกซื้อชั้นนี้แน่ๆ

ส่วนกลุ่มชั้นที่ถือว่าดีนั้นก็มีหลายชั้นทีเดียว ลองมาดูกันต่อว่าคุณเดาถูกหรือเปล่า
1. คอนโดชั้น 5 ในทางฮวงจุ้ยแทนความหมายถึงความมั่งคง ปลอดภัย เป็นที่รวมของทุกธาตุ (ธาตุดิน) ตามโหราศาสตร์ไทย เลข 5 คือดาวพฤหัส ดาวแห่งการปกป้องคุ้มครองดวงชะตา ส่วนศาสตร์ของฝรั่ง เลข 5 แทนความหมายของความสมดุล เพราะ 5 อยู่ตรงกลางระหว่างเลข 0-9 เพราะฉะนั้นชั้นคอนโด ที่ลงท้ายด้วยเลข 5 มักจะดีกว่าชั้นอื่น

2. คอนโดชั้น 9 ถือเป็นตัวเลขยอดนิยมของคนไทยเรา ซึ่งให้ความหมายที่ดีตั้งแต่ชื่อเรียกที่เป็นมงคล 9 ในความหมายของโหราศาสตร์ไทยคือพระเกตุ ดาวแห่งการสนับสนุน ส่งเสริม เกื้อกูล ส่วนในทางฮวงจุ้ยเลข 9 คือความรุ่งเรืองเจริญก้าวหน้า ของฝรั่งเองก็ยังพยักหน้าว่าดี เพราะเลข 9 คือจำนวนสูงสุดของตัวเลข 0-9

3. คอนโดชั้น 8 ใครที่ชอบความร่ำรวยต้องชั้นนี้เลยครับ คนจีนชอบเลขนี้มากที่สุด เพราะเลข 8 ให้ความหมายของ "โชคลาภ" การเงิน ความมั่งคั่ง ของฝรั่งเองก็บอกว่าดี เพราะถ้าหันข้างเลข 8 ก็จะเป็นเครื่องหมาย Infinity หมายถึง ไม่มีที่สิ้นสุด แต่สำหรับโหราศาสตร์ไทย เลข 8 จะมีความหมายที่ไม่ดี เท่าไหร่ 8 จะหมายถึงความลุ่มหลง มัวเมา อบายมุข เป็นดาวบาป ดาวเคราะห์ ให้ผลในทางลบมากกว่าบวก

ถ้าใครศึกษาวิชาเลข 7 ตัวของโหราศาสตร์ไทยจะได้ตัวเลขที่ดีเพิ่มขึ้นอีก อย่างเลข 11 แทนความหมายว่าราชาโชค เลข 14 แทนความหมายว่าจักรพรรดิ เลข 16 คือโสฬส แทนความหมายว่าความอุดมสมบูรณ์ เป็นต้น

ใครกำลังตัดสินใจเลือกซื้อคอนโดอยู่ตอนนี้ ก็ลองนำเรื่องนี้ไปประกอบการตัดสินใจดูนะคะ เผื่อจะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากน้อยค่ะ




วันพุธที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ซื้อคอนโดทั้งที เลือกห้องไหนดี ตอนเลือกทิศไหนดี

https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhuqeEr9MM6VKNlAkvfK0E6XDVSlM0ZW7dWsOE31KecGCLOBvMzvKI8RRkYBoVrteFgk43Q61eQBZhhdjMCWZVo2aAZmBgO8OArh9ZPlIvlA16uOrOYPwZg1Fz4Frpi0EPVFJ3-PNmdr_o/s1600/Classic-Modern-Bedroom-Furniture-Decor(1).jpg


ก่อนจะไปถึงเรื่องการตกแต่งคอนโดที่เราซื้อมา ขั้นตอนแรกในการตัดสินใจเลือกคอนโดก็สำคัญเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่คิดจะซื้อคอนโด เพราะเลือกผิดอาจคิดจนตัวตาย จะแก้ไขอะไรก็คงจะยาก

หลักการพิจารณาวิธีเลือกห้องในคอนโด เริ่มตั้งแต่การดูผังการวางห้องที่แต่ละชั้นอาจดูเหมือนๆ กันไปหมด ยกเว้นชั้นที่มีสาธารณูปโภคต่างๆ เช่น สระว่ายน้ำ สนามเทนนิส ห้องฟิตเนส หรืออื่นๆ แต่มีหลักการเบื้องต้น ในการเลือกเช่น

1. ข้อแรก ห้องที่ไม่ควรเลือกได้แก่ห้องที่ตรงกับบันได หรือ ลิฟต์หรือ ห้องคอนโดตรงกับทางเดินหรือทางแยกของชั้นในคอนโดนั้นๆ เพราะถือว่าเป็นตำแหน่งที่จะต้องเกิดความวุ่นวาย ทำให้ผู้ที่อาศัยในห้องคอนโดนั้น อยู่อย่างไม่สงบ แต่ในทางฮวงจุ้ยอธิบายว่าตำแหน่งนี้จะให้ความรู้สึกที่เป็นลบมากกว่าบวก เพราะเวลาคนมองเห็นป้ายทางหนีไฟแล้วจะรู้สึกถึงความกลัว กังวล ฉุกเฉิน คนที่อยู่ห้องที่ติดกับทางหนีไฟจะต้องเดินผ่านหรือมองเห็นทุกวัน ทางจิตวิทยาบอกว่าความรู้สึกดังกล่าวจะฝังเข้าไปในจิตใต้สำนึกซึ่งเป็นความ รู้สึกในด้านลบ ยิ่งในทางฮวงจุ้ยด้วยแล้วคำว่า "ทางหนีไฟ" สื่อถึงโชคลาภที่วิ่งหนีออกไป ทำให้ห้องนั้นปราศจากโชคลาภ

2. สำหรับตำแหน่งที่ควรเลือกนั้น ตัวเลือกอันดับแรกๆ ที่ผู้ซื้อคอนโดให้ความสนใจมากกว่าคือห้องมุม เพราะให้ความรู้สึกทีสบายกว่าห้องที่อยู่ตรงกลาง ทั้งในด้านการใช้ประโยชน์จากห้อง การรับแสงแดดหรือลมที่เข้ามาในห้องได้มากกว่าเพราะเข้าคอนโดได้ ทั้งสองด้าน อย่างไรก็ดีการเลือกนั้นก็ไม่ใช่ว่าเลือกห้องมุมห้องไหนก็ได้ โดยหลักการการเลือกนั้น ทิศทางของห้องก็เป็นส่วนที่สำคัญโดยห้องมุมที่ดีที่สุดคือห้องที่อยู่ทางทิศ ตะวันออกกับทิศใต้ เพราะทิศตะวันออกจะได้รับประโยชน์ในด้านแสงเข้าถึงได้ดี ส่วนทิศใต้จะได้รับประโยชน์ในด้านลมที่จะทำให้ลมเข้าและห้องไม่ร้อน โดยแดดจะเข้าเฉพาะตอนเช้า ห้องมุมที่ถือว่าแย่คือห้องมุมทางทิศตะวันตกกับทิศเนือ เพราะเป็นห้องที่รับแดดเต็มๆ แถมยังอับลมอีกด้วย ส่วนห้องมุมที่แย่รองลงมาก็คือห้องมุมทางทิศตะวันตกกับทิศใต้ ซึ่งห้องนี้ถือเป็นจุดที่รับแสงแดดและลมมาก โดยเฉพาะลมจากทิศตะวันตกเฉียงใต้ ถ้าห้องอยู่ชั้นสูงๆ อาจเปิดประตูหน้าต่างไม่ได้เพราะลมเข้ามายังห้องในคอนโดแรงมาก  

สำหรับเรื่องทิศทางของคอนโดคุณ ผู้อ่านคงเข้าใจกันมากขึ้นแล้วนะคะ มันมีเหตุผลและที่มาอย่างไร ไม่ใช่เป็นเพียงความเชื่อโดยไร้เหตุผล เท่านี้ท่านก็จะสามารถเลือกคอนโดที่อยู่สบายได้แล้วค่ะ




วันอังคารที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

เลือกคอนโดแบบสตูดิโอ ดีหรือไม่


เป็นธรรมดาที่ คอนโด ทั่วๆ ไปจะมีห้องสตูดิโอมาให้เลือก และสิ่งที่ดึงดูดใจหลายๆ คนนั่นคือเรื่องของราคา เพราะด้วยราคาที่ถูกกว่าห้องทั่วไปอย่างมาก แต่ต้องแลกด้วยอะไรหลายๆ อย่าง แล้วแบบนี้จะคุ้มหรือไม่ถ้าเลือกห้องสตูดิโอ

คอนโด ห้อง แบบสตูดิโอเป็นห้องรูปแบบที่เปิดโล่ง (คล้ายหอพัก) ไม่มีส่วนกั้นห้องนั่งเล่นกับห้องนอน ดังนั้นจะให้ความรู้สึกที่กว้างกว่าห้องแบบ 1 ห้องนอน จึงทำให้เจ้าของห้องมีอิสระอย่างมากในการตกแต่งห้องตามแบของตัวเอง

ทำเลดีในราคาถูก
คอนโด ห้อง แบบสตูดิโอมีทำเลให้เลือกไม่แพ้ห้องธรรมดา แต่สิ่งที่แตกต่างกันคือเรื่องของราคา ทำให้คนที่จะเลือกซื้อต้องคิดถึงความคุ้มค่า เพราะต้องอยู่กับมันไปอีกหลายปี บางคนยอมเลือกห้องแบบ 1 ห้องนอนแต่อยู่ในทำเลที่ไม่ค่อยดี มีตึกสูงบัง ก็อาจทำให้อารมณ์หดหู่ได้นะ

ทำความสะอาดง่าย
เนื่อง จากขนาดของห้องและขอบมุมต่างๆ มีไม่มากทำให้การทำความสะอาดสามารถทำได้ง่ายและรวดเร็วกว่า (แต่ก็ขึ้นอยู่กับสิ่งของในห้องด้วย) การดูแลเรื่องสิ่งของชำรุดมีให้กวนใจไม่มากเท่าห้องแบบอื่น การตรวจรับห้องจึงเป็นเรื่องง่ายกว่าด้วย

ตกแต่งได้ตามสไตล์
แน่ นอนว่าห้องโล่งย่อมมีความหมายสำหรับคนที่อยากตกแต่งห้องตามใจตัวเอง เพราะห้องแบบอื่นที่มีการกั้นห้องมาให้อาจไม่เข้ากับไลฟสไตล์ของคุณมากเท่า ไหร่ เช่นบางคนชอบใช้ชีวิตในห้องนั่งเล่นมากกว่า แต่โครงการกั้นห้องนั่งเล่นมาให้มีพื้นที่เล็กมาก ระยะโซฟาถึงทีวีใกล้เกินไป เป็นต้น
ข้อเสียของ คอนโด ห้องสตูดิโอ
ห้อง แบบสตูดิโอดูกว้างโล่งก็ จริง แต่ความจริงแล้วมีพื้นที่มาให้น้อยมาก ทำให้เมื่อย้ายของหรือทำการตกแต่งแบบไม่ดีแล้วจะทำให้ห้องดูแคบเอามากๆ ข้อเสียอีกอย่างคือสัดส่วนของห้อง เนื่องจากไม่มีการกั้นห้องมาให้ ทำให้ห้องนอนไม่รู้สึกถึงความเป็นส่วนตัวมากเท่าที่ควร และการทำอาหารหรือกิกรรมต่างๆ จะส่งกลิ่นไปทั่วห้องได้

การเลือกห้องใน คอนโด สัก หนึ่งห้องต้องดูความเหมาะสมหลายอย่างนอกจากเรื่องราคา เพราะยังมีเรื่องของทิศทางและวิวที่จะได้รับด้วย สิ่งเหล่านี้มีผลต่อเจ้าของห้องตั้งแต่วันแรกที่เข้าอยู่ และอาจส่งผลต่อการปล่อยเช่าหรือขายต่อในอนาคตอีกด้วย ดังนั้นควรศึกษาให้รอบคอบ

คอนโด ห้องแบบสตูดิโอ

คอนโด ห้องแบบสตูดิโอ
 
 
บทความอื่นๆน่าสนใจ

วันจันทร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

แบบคอนโด สีเขียว สวยสดชื่น

เมื่อ นึกถึงความสดชื่น สบายตา ก็ต้องนึกถึงสีเขียว เนื่องจากสีเขียวเป็นสีของใบไม้ ต้นไม้ ถือเป็นตัวแทนของธรรมชาติเลยก็ว่าได้ เพียงแค่ได้ยินคำว่า เขียวขจี ก็รู้สึกได้ถึงความสดชื่น ผ่อนคลายได้มากเลย การนำสีเขียวมาตกแต่งภายในจึงสามารถสร้างความผ่อนคลายได้อย่างมาก อย่างเช่น  แบบห้องครัวสวย สไตล์โมเดิร์น เคาเตอร์ครัวเข้ามุมติดผนังสีเขียว การตกแต่งที่เรียบง่าย แต่ด้วยสีเขียวจึงทำให้ห้องครัวดูมีสไตล์และโดดเด่นมากยิ่งขึ้น รวมถึงห้องนอน และห้องน้ำ อีกทั้งยังได้ลวดลายบนกระเบื้องติดผนังที่น่ารักน่าชัง สัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนนุ่มนวล ทำให้ภายใน คอนโด มีชีวิตชีวา สบายตา สบายใจ 
 


โดย : คอนโด CMC